นั่งรถไฟจากทวายไปมะละแหม่ง (เส้นทางรถไฟที่ช้าที่สุดในพม่า)
การเดินทางจากทวายไปมะละแหม่งนั้น เราสามารถนั่งรถโดยสาร รถไฟ
และเครื่องบินไปก็ได้ ซึ่งมีบริการทุกวัน
โดยเฉพาะการเดินทางด้วยรถตู้โดยสารที่ออกทุกชั่วโมงตั้งแต่เช้าตรู่ถึงเวลาบ่ายๆ
แต่การเดินทางที่สนุกตื้นเต้นและเต็มไปด้วยสีสันที่ผมอยากแนะนำเหล่านักเดินทางสะพายเป้ทั้งหลายก็คือการเดินทางด้วยรถไฟ
www.adventurizer.com
คุณรู้ไหม?...รถไฟสายทวาย – มะละแหม่งนั้น
เป็นเส้นทางรถไฟที่ช้าที่สุดในประเทศพม่าหรืออาจจะช้าที่สุดในอาเซียนเลยก็ว่าได้
เอาละ...เราลองจินตนาการดูว่าเราจะใช้เวลาเดินทางกี่ชั่วโมงสำหรับระยะทางประมาณ 300 กิโลเมตร ตอนแรก ผมคิดว่าน่าจะประมาณ 4-5 ชั่วโมง
แต่ความจริงที่ต้องบอกกันตรงๆ เลยก็คือใช้เวลาเดินทางนานถึง 14 ชั่วโมงเลยทีเดียว!!!
เพราะรถไฟวิ่งด้วยความเร็วที่จำกัดจำเขี่ยซะเหลือเกิน ประมาณ 30-40
กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้นและจอดแวะรับผู้โดยสารตลอดทาง
ถึงแม้จะเหนื่อยกับการเดินทางแต่มันก็เต็มไปด้วยความสนุกสนาน
ผู้คนมากหน้าหลายตาที่พบเจอบนรถไฟ, ความงดงามของธรรมชาติและวิถีชีวิตชุมชนสองข้างทางรถไฟช่วยแต้มแต่งสีสันของการเดินทางให้รู้สึกเพลิดเพลินไม่เบื่อหน่ายเลยสักนิดเดียว
เช้าตรู่วันนั้น ผมสะพายเป้ใบเขื่องพร้อมหนังสือ ‘Finding
George Orwell in Burma’ มีชื่อภาษาไทยว่า ‘จิบพม่า ตามหาจอร์จ ออร์เวลล์’ เขียนโดย
Emma Larkin เล่าเรื่องการย้อนรอยตามเส้นทางของจอร์จ ออร์เวลล์ อดีตตำรวจอังกฤษผู้ใช้ชีวิตสี่ปีในพม่าจากปากแม่น้ำอิรวดี
ย้ายมาย่างกุ้ง แล้วไปอยู่มะละแหม่ง ก่อนจะโดนย้ายขึ้นเหนือไปอยู่ที่กะธา ผมมาถึงสถานีรถไฟประมาณตีห้ากว่าๆ
พอมาถึงปุ๊บ และซื้อตั๋วเรียบร้อย ผู้คุมรถไฟก็พาขึ้นไปนั่งตรงเก้าอี้ไม้ชั้นล่าง
(Lower Class) ในราคา 3,900 จ๊าตหรือประมาณ 130 บาท
ส่วนชั้นบน (Upper Class) ซึ่งเป็นเบาะหนัง ราคา 5,900
จ๊าตหรือประมาณ 200 บาท ถ้าใครไม่อยากทรมานตัวเอง ผมขอแนะนำซื้อตั๋วราคา 3,900 จ๊าตจะเป็นการดีที่สุด...ไม่อย่างนั้นคุณอาจต้องนั่งจนตูดชาเลยทีเดียว...หลังจากนั่งรอประมาณครึ่งชั่วโมง
เสียงหวูดรถไฟก็ดังขึ้นเหมือนเตือนผู้คนให้ถอยออกจากชานชาลาก่อนจะวิ่งออกไปตอนเวลาหกโมงเช้า
Photo by: Chris
รถไฟวิ่งฉึกฉักไปอย่างช้าๆ ผ่านทุ่งนา แม่น้ำ และชุมชน
ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ผมเดินออกมายืนตรงประตูรถไฟเพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นแต่งฟ้าอันสดใส
สูดอากาศเข้าเต็มปอดเต็มก้อนด้วยความสดชื่น บนรถไฟเต็มไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา เสียงพูดคุยกันด้วยภาษาพม่าสำเนียงทวายดังรอบตัว
รถไฟแวะจอดรับผู้โดยสารเกือบทุกครึ่งชั่วโมงตลอดการเดินทางสู่เมืองมะละแหม่งจนแทบไม่มีที่นั่ง!
ล้นทะลักออกมาถึงตรงประตูทางขึ้น-ลง และประตูเชื่อมโบกี้ก็ล็อกไว้สนิท
ผู้คนบนรถต่างส่งรอยยิ้มมาที่ผมด้วยความเป็นมิตร
บางคนนั่งหลับไปจนถึงปลายทางและบางคนก็นั่งทานอาหารบนรถไฟอย่างเอร็ดอร่อย พอรถไฟวิ่งมาถึงเมืองเย
เขาจะให้เราเปลี่ยนขึ้นรถไฟอีกขบวนหนึ่งเพื่อเดินทางต่อไปเมืองมะละแหม่งหรือที่คนท้องถิ่นเรียกว่า
‘เมาะลัมไยน์’ ซึ่งใช้เวลาเดินทางอีกหลายชั่วโมง
แต่ถ้าเกิดท่านใดไม่ไหวจริงๆ ก็สามารถนั่งรถบัสต่อไปเมืองมะละแหม่งได้เช่นเดียวกัน
ผมมาถึงเมืองมะละแหม่งตอนเวลาประมาณเกือบสามทุ่มแล้ว....นับเป็นประสบการณ์การเดินทางที่สนุกตื่นเต้นอีกครั้งหนึ่งของชีวิตเลยทีเดียว....